ยาแนวมีกี่ประเภท? คุณสมบัติของยาแนวแต่ละประเภทและการเลือกใช้

หากพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการอุดรอยต่อ ปิดร่องจากการต่อเติมส่วนต่าง ๆ ให้กับบ้าน เช่น  ประตู หน้าต่าง ผนังบ้าน สุขภัณฑ์ในครัว กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงแนวช่องว่างต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์นั้นจะเรียกว่ายาแนว แต่สิ่งที่ต้องรู้คือยาแนวไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว ยาแนวมีแบบให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับจุดเด่นและความเหมาะสมกับการใช้งาน ในบทความนี้ เรา OJO จะพาไปรู้จักว่า ยาแนวมีกี่ประเภท คุณสมบัติของยาแนวแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง ต้องเลือกใช้อย่างไรถึงจะเหมาะสม

ยาแนว คืออะไร?

ยาแนว คือวัสดุอย่างหนึ่งที่ใช้อุดช่องว่างและปิดรอยต่อระหว่าง 2 วัสดุ เพื่อทำให้เกิดความเรียบร้อย สะอาด โดยลักษณะของยาแนวนั้นจะดูคล้ายกับกาว และยังมีคุณสมบัติในการเชื่อมวัสดุเข้าด้วยกัน ป้องกันการรั่วซึม ป้องกันการเกิดของเชื้อรา ลดระยะเวลาการเสื่อมสภาพของ วัสดุเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

 

ผลิตภัณฑ์ยาแนวแบ่งออกเป็นกี่ชนิด

ถ้าแบ่งตามการแห้งตัวของยาแนว สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

  1. ยาแนวที่แห้งตัวโดยการระเหยของตัวทำละลาย เช่น อะคริลิคยาแนวสูตรน้ำ
  2. ยาแนวที่แห้งตัวโดยอาศัยการเกิดปฏิกิริยาเคมี เช่น ซิลิโคนยาแนว พียูยาแนว เอ็มเอสโพลิเมอร์ยาแนว โดยยาแนวประเภทนี้จะอาศัยเกิดปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศทำให้ยาแนวเกิดการแห้งตัว ถ้าทางภาษาเคมีจะเรียก Moisture cure 

 

ยาแนวมีกี่ประเภท? แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างไร?

หลังจากที่ได้รู้จักว่ายาแนวคืออะไร และการแบ่งชนิดของยาแนว แล้ว หลายคนก็อาจมีคำถามว่าแล้วยาแนวมีกี่ประเภท? คุณสมบัติแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร? 

ถ้าเราแบ่งยาแนวโดยอาศัยองค์ประกอบที่เป็นสารยึดติดเป็นเกณฑ์ในการแบ่งชนิดของยาแนว เราสามารถแบ่งได้ออกเป็นหลายชนิด โดยที่เรารู้จักกันดี ก็จะมียาแนวหลักๆอยู่ 4 ชนิดคือ

  1.  อะคริลิคยาแนว

  2.  ซิลิโคนยาแนว

  3.  พียูยาแนวหรือโพลิยูรีเทนยาแนว

  4.  เอ็มเอสโพลิเมอร์ยาแนวหรือเรียกสั้นๆว่าโพลิเมอร์ยาแนว

เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ยาแนวทั้ง 4 ชนิด ซึ่งเป็นประเภทยาแนวที่เป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเรา

ยาแนวมีกี่ประเภท

อะคริลิคยาแนว

อะคริลิคยาแนว จะเป็นยาแนวที่ทำมาจากซีเมนต์และปรับปรุงด้วยเรซินกับอะคริลิค เช็คกับพี่กุ๊ก เพื่อให้ความทนทาน ทนน้ำ และยืดหยุ่นมากขึ้น

  • ทนน้ำแต่ไม่กันน้ำ 100% (ดีกว่าปูนยาแนว)
  • ยืดหยุ่นกว่าปูนยาแนวแต่ยืดหยุ่นน้อยกว่าซิลิโคน
  • ทนทานต่อคราบสกปรกและทำความสะอาดง่าย
  • พร้อมใช้งานและใช้งานง่าย – ไม่ต้องผสม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชอบทำ
  • สามารถทาสีทับได้

 

ซิลิโคนยาแนว

ซิลิโคนยาแนว เป็นยาแนวที่ทำมาจากซิลิโคน แทนการใช้ปูนหรืออีพ็อกซีแบบดั้งเดิม โดยจะมีจุดเด่นหรือคุณสมบัติคือ

  • มีความยืดหยุ่นสูง – สามารถขยายและหดตัวได้ตามการเคลื่อนไหว
  • กันน้ำได้ 100% 
  • ซิลิโคนบางประเภท มีสารยับยั้งเชื้อรา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริเวณเปียก เช่น ห้องน้ำและห้องครัว
  • ไม่แตกง่ายแต่สามารถสึกกร่อนลงได้เมื่อเวลาผ่านไป
  • ไม่สามารถทาสีทับได้

 

โพลียูรีเทนยาแนว 

โพลียูรีเทนยาแนว (Polyurethane Sealant) คือวัสดุยาแนวที่มีส่วนประกอบหลักเป็น โพลียูรีเทน (PU)  มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เหมาะสำหรับใช้อุดรอยต่อหรือรอยแตกในโครงสร้างต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในอาคาร

  • ยืดหยุ่น รองรับการขยายและหดตัวของรอยต่อได้
  • ทนทานต่อสภาพอากาศ  ทนแดด ทนฝน  
  • สามารถยึดเกาะกับวัสดุหลากหลาย เช่น คอนกรีต ไม้ โลหะ กระจก
  • สามารถทาสีทับได้  

 

โพลิเมอร์ยาแนว

โพลิเมอร์ยาแนว คือ วัสดุยาแนวที่มีส่วนผสมหลักเป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ MS (Modified Silane) โดยออกแบบมาเพื่อใช้อุดรอยต่อหรือรอยแตกร้าวระหว่างวัสดุในงานก่อสร้างหรืองานตกแต่งเช่นเดียวกับยาแนวชนิดอื่น แต่มีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นสูงกว่าชนิดอะคริลิค 

  • ยืดหยุ่นสูงรองรังการขยายตัวของวัสดุได้ดี
  • ทนทานต่อสภาพอากาศ ความชื้น รังสี UV
  • สามารถใช้งานบริเวณพื้นผิวเปียกชื้นได้
  • ยืดหยุ่นได้มากกว่ายาแนวทั่วไป
  • สามารถทาสีทับได้

ยาแนวแต่ละประเภท เหมาะกับการใช้งานรูปแบบไหนบ้าง?

หลังจากที่รู้จักแล้วว่ายาแนวมีกี่ประเภท เราก็ขอแนะนำว่าทั้งซิลิโคนยาแนว อะคริลิคยาแนว และโพลิเมอร์ยาแนว เหมาะกับการใช้งานอย่างไรบ้าง ดังนี้

  1. อะคริลิคยาแนว ใช้สำหรับ อุดรอยต่อ รอยแตกร้าว หรือช่องว่างต่าง ๆ ในงานก่อสร้างหรืองานตกแต่ง เช่น บริเวณขอบวงกบหน้าต่าง-ประตู รอยต่อระหว่างผนังกับฝ้า หรือระหว่างไม้กับปูน 
  2. ซิลิโคนยาแนว จะเหมาะกับการใช้งานในบริเวณรอยต่อทั่วไป รวมทั้งบริเวณที่มีความชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และสามารถนำมาปิดมุมขอบและรอยต่อกระเบื้องได้เช่นกัน
  3. โพลียูรีเทนยาแนว ใช้ในงานก่อสร้างและซ่อมแซมในบริเวณต่าง ๆ เช่น รอยต่อระหว่างผนังกับพื้น / เพดาน 
  4. โพลิเมอร์ยาแนว เป็นยาแนวที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เหมาะกับทั้งใช้กับกระเบื้องพื้นทางเดิน ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำ การใช้งานด้านการปูกระเบื้องภายนอก รวมถึงใช้บริเวณผนังหรือเคาน์เตอร์ได้ด้วยเช่นกัน

 

ยาแนวมีกี่ประเภท เราได้อธิบายไปเป็นทีเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น อะคริลิคยาแนว ซิลิโคนยาแนว โพลียูรีเทนยาแนว และโพลิเมอร์ยาแนว ซึ่งทั้ง 4 ประเภทนี้จะเป็นประเภทที่ได้รับความนิยม แต่คุณสมบัติจุดเด่นและการใช้งานนั้นก็จะมีความแตกต่างกันซึ่งเราได้อธิบายไว้ข้างต้น นอกจากยาแนวแล้ว เรายังมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำหรับใช้งานกับบ้านอีกหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทปกันรั่วซึม พียูโฟม กาวพลังตะปู และอีกหลากหลายอย่างให้เลือก

 

ประเภท

ความยืดหยุ่น

ทน UV/น้ำ

ทาสีทับได้

เหมาะกับงาน

อะคริลิคยาแนว

ปานกลาง

ไม่ทนมาก

✔️

ภายในบ้าน

ซิลิโคนยาแนว

สูง

✔️

งานภายใน และภายนอก

โพลียูรีเทนยาแนว (PU)

สูง

✔️

✔️

ภายนอก/โครงสร้าง

โพลิเมอร์ยาแนวPolymer

สูงมาก

✔️✔️

✔️

งานหนัก ภายนอก รอยต่อเคลื่อนไหวมาก

 


อ่านบทความเพิ่มเติม:

น้ำยากันซึมแบบใส ดีอย่างไร ใช้แล้วยังโชว์วัสดุเดิมได้อยู่ไหม?

กาวพลังตะปู คืออะไร? ติดอะไรได้บ้าง?  เลือกกาวตะปูแบบใดที่ตอบโจทย์การใช้งาน?

อะคริลิคกันรั่วซึม คืออะไร เหมาะกับการใช้งานรูปแบบไหนบ้าง?

แชร์ :
รีวิวผลิตภัณฑ์และบทความ ที่เกี่ยวข้อง:

กระเป๋าช้อปปิ้ง ( 1 )